หมวดหมู่: สุขภาพ

การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติสำหรับผู้ป่วยเบาหวานต้องบอกว่าสำคัญมากๆเลยทีเดียวถ้าผู้ป่วยเบาหวานท่านใดปล่อยให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานานๆก็จะไปทำให้ไปทำลายอวัยวะต่างๆในร่างกายทำให้เกิด ตาบอด ไตวาย หัวใจวาย และ เส้นเลือดในสมองตีบได้ต้องบอกว่าอันตรายเลยทีเดียว

ดังนั้นคนที่เป็นเบาหวานต้องควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีและก็ปกติถึงจะป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงต่างๆตามมาได้ผลไม้ก็เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมของคนไทยมากๆเลยทีเดียวสำหรับผู้ป่วยเบาหวานก็จะชอบรับประทานผลไม้เป็นอย่างมากทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี

ซึ่งการรับประทานผลไม้ที่ถูกต้องถูกชนิดแล้วก็ในปริมาณที่เหมาะสมก็จะช่วยลดและควบคุมน้ำตาลในเลือดสามารถที่จะควบคุมได้และเราก็จะมาบอกผลไม้ที่ต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยเบาหวานว่ามีกี่ชนิดถ้าผู้ป่วยเบาหวานทาทนอาหารชนิดนี้เข้าไปน้ำตาลขึ้นแน่นอน

ผลไม้ชนิดที่หนึ่งก็คือ ผลไม้ที่แปรรูป ต่างๆไม่ว่าจะเป็นผลไม้ตากแห้งผลไม้กวนแช่อิ่มเชื่อมต่างๆอันนี้ต้องบอกว่าผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยงเลยทีเดียวเพราะว่าเวลาเราเอาผลไม้ไปแปรรูปต้องบอกว่าต้องใช้ปริมาณแปรรูปอย่างมหาสารเลยในการที่จะแปรรูปผลไม้นั้นจึงทำให้ผลไม้มีส่วนประกอบของน้ำตาลที่สูงมากถ้าเราทานเข้าไปรับรองได้เลยว่าระดับน้ำตาลของเราเพิ่มสูงเยอะขึ้นมากแน่นอนไปหาคุณหมอก็จะโดนดุเอา

ดังนั้นพวกผลไม้แปรรูปต่างๆไม่มะม่วงกวนมะม่วงแช่อิ่มกล้วยเชื่อมต่างๆให้งดเลยให้รับประทานเป้นผลไม้สดจะดีกว่าเพราะมันไม่ได้ผ่านกระบวกการมากเท่าไหร่เป็นผลที่ออกมาจากต้นสดๆ

ผลไม้ชนิดที่สองก็คือ น้ำผลไม้ อันนี้หลายคนไม่รู้ว่าน้ำผลไม้มันจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติก็พูดง่ายๆเวลาเราดื่มน้ำส้มหนึ่งแก้วจะต้องใช้ ปริมาณของผลส้มเท่าไหร่อย่างๆน้อยๆก็ประมาณ3-4ลูกขึ้นไปเพื่อที่จะคั้นออกมาเพื่อให้ได้น้ำส้มหนึ่งแก้ว

เพราะฉะนั้นปริมาณน้ำส้มหนึ่งแก้วก็จะเท่ากับผลไม้ประมาณ3-4ลูกด้วยกันการที่ผู้ป่วยเบาหวานดื่มน้ำหนึ่งแก้วก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงแน่นอนนอกจากนี้ถ้าเราไปซื้อตามร้านาต้องบอกว่าไม่ใช่น้ำผลไม้100%แน่นอนต้องมีผสมกับน้ำเชื่อมต่างๆหรือว่าผสมกับน้ำอื่นๆที่ผสมเข้าไปก็จะทำให้ระดับน้ำตาลยิ่งสูงหนักกว่าเดิม

เนื่องจากนนี้ผู้ป่วยเบาหวานแนะนำเลยว่าอาจจะต้องหลีกเลี่ยงน้ำผลไม้ถ้าอยากทานส้มให้กินส้มไปเลยไม่จำเป้นที่จะต้องกินเป็นน้ำส้มเพียงแค่นี้ก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดดีขึ้นได้แล้ว

 

สนับสนุนโดย    สมัครเว็บหวยฮานอย

ในปัจจุบันนั้นได้มีการที่เรานั้น สามารถที่จะทำการไปนวดนั้นอย่างมากมาย ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการที่ปวดในจุดต่างๆนั้น เราก็จะมีการที่นึกถึงการนวดกันอยู่แล้ว ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการไปทำการนวดนั้น เราก็จะได้รับการที่สามารถทำการผ่อนคลายได้อย่างมากๆ และในการที่เรานั้นได้มีการที่อยากที่จะทำการนวดนั้นได้มีอย่างหลากหลาย เช่นการนวดแผนไทย การนวดสปา การนวดแบบโบราณ เป็นต้น

ซึ่งในการที่เรานั้นจะมีการทำการนวดแบบต่างๆนั้น จะเป็นการที่เรานั้น สามารถที่จะทำการนวดในแบบต่างๆนั้น ก็ได้มีความแตกต่างกันอีกด้วย ซึ่งในการที่เรานั้นจะมีการทำการนวดแบบไทยและการนวดสปานั้นก็คือ

การนวดแบบแผนไทย

ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการนวดจะเป็นการที่สามารถที่จะทำให้เรานั้นสามารถที่จะทำการรักษาอาการปวดในสิ่งต่างๆของเรานั้น ด้วยการยืดเส้นต่างๆ และการกดจุด ซึ่งได้เป็นการที่เรานั้นสามารถที่จะมีการที่เรานั้นทำการหายจากการที่เรานั้นได้มีการปวดเมือยในสิ่งต่างๆที่เรานั้นได้มีการเป็นอยู่

และการนวดแผนไทยนั้นก็ได้มีที่มาจากการที่ได้มีการนำเข้ามาจากประเทศอินเดียอีกด้วย และมีการที่ได้มีการที่ถูกนำมาทำการพัฒนานาในได้มีการที่เป็นการนวดที่มีการนวดเป็นอย่างมากสำหรับประเทศไทย

การนวดสปา

จะเป็นการที่เรานั้นสามารถที่จะมีการนวด เพื่อที่จะทำการผ่อนคลายกันอย่างมากของร่างกายและจิตใจของเรา ซึ่งได้เป็นสถานที่ที่เรานั้นสามารถที่จะมีการทำการนวด เพื่อที่จะทำให้เรานั้นมีสุขภาพที่ได้ดีขึ้นจากเดิม และสามารถที่จะมีการทำการบำบัดร่างกายของเรานั้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

และในการที่เรานั้นได้มีการนวดสปานั้น ก็ยังได้เป็นการที่เรานั้นได้มีการทำการออกกำลังกายในรูปแบบใหม่นั้นอีกด้วย ซึ่งในการที่เรานั้นจะมีการทำการนวดสปานั้น เราก็จะได้มีการที่สามารถทำการรับการนวด หรือสามารถที่จะมีการทำการรับบริการได้อย่างหลากหลายอีกด้วย เช่นในการที่เรานั้นสามารถที่จะมีการทำการนวด เพื่อที่จะมีการเพิ่มความสวยงามของเรา การที่เรานั้นสามารถที่จะมีการเพิ่มพลังงานต่างๆของเรานั้นได้ดีอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์ยังไง

เมื่อเรานั้นต้องการที่จะทำงานที่หนักหรือว่าการที่เรานั้นดูหนังจนดึก  หรือว่าเกิดอะไรขึ้นก็แล้วแต่จนที่ทำให้เรานั้นรู้สึกว่าเรานั้นพักผ่อนไม่เพียงพอ การที่เรานั้นเกิดความรู้สึกอย่างนี้นั้นก็คือการที่เรานั้นเกิดอาการถุงใต้ตาที่เรานั้นรู้สึกว่าบวมขึ้น  ก็เลยจะมีคนทักว่าไปทำอะไรมาทำไมดูหน้าของเรานั้นเหนื่อย  เป็นอะไร หรือเปล่า 

ซึ่งในวันนี้เรานั้นจะมาบอกวิธีในการที่เรานั้นจะดูแลถุงใต้ตาของเราเนี่ยแหล่ะ  เพื่อที่จะไม่เกิดอาการบวมจนทำให้คนหลายๆคนนั้นต้องมาถามว่าเรานั้นเป็นอะไรหรือเปล่า  เริ่มจากการที่เรานั้นต้องมาทำความรู้จักเกี่ยวกับถุงใต้ตาก่อนว่าคืออะไร  ถุงใต้ตานั้นที่เราเห็นนั้นคือถุงไขมันที่เรานั้นมีกันทุกคน

เพราะว่าการที่เรานั้นมีถุงใต้ตานั้นก็เกิดจาการที่เรานั้นกินของมันมากเกินไป จนทำให้เกิดอาการที่บวมขึ้น และก็มากไปยิ่งกว่านั้นคือการที่เรานั้นเกิดริ้วรอยที่มาด้วยเพราะว่าการที่เรานั้นมีถุงใต้ตานั้นก็สามารถที่จะบอกอะไรเราได้บ้าง  

     ถุงใต้ตาที่เรานั้นบวมนั้นเกิดได้หลายปัจจัยและก็สามารถที่จะทำให้เรานั้นเกิดขึ้นได้ทั้งภายในและภายนอกนั่นเอง  

• เมื่อเรานั้นมีอายุที่มากขึ้นนั้นก็สามารถที่จะทำให้เรานั้นเกิดอาการที่กล้ามเนื้อของเรานั้นเกิดอ่อนแอนั่นเองและยังตามมาด้วยถุงใต้ตาที่เรานั้นรู้สึกว่าบวมขึ้นนั่นเอง  
• อาการที่เรานั้นแพ้ เมื่อเรารู้สึกว่าเรานั้นแพ้อะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นอาหาร  ของใช้  หรือว่าอากาศนั้นก็วาสามารถทำให้ตาของเรานั้นเกิดอาการบวมมากขึ้นได้นั่นเอง 
• แสงแดด เพราะว่าแสงแดดนั้นสามารถที่จะทำให้ผิวของเรานั้นเกิดการร่วงโรยได้เหมือนกัน  
• การที่เรานั้นพักผ่อนไม่เพียงพอ เมื่อเรานั้นรู้สึกว่าเรานั้นนอนน้อยก็สามารถที่จะทำให้เกิดอาการที่มีถุงใต้ตานั้นด้วยเหมือนกัน 
• อาการเครียด  เมื่อเรานั้นรู้สึกว่าเราเครียดเกี่ยวกับเรื่องงานหรือว่าเรื่องอื่นนั้นก็สามารถที่จะทำให้เรานั้นเกิดอาการถุงใต้ตาได้เหมือนกัน โดยที่ทำให้เรานั้นรู้สึกว่ามาได้ไง  
• ผิวที่แห้ง  การที่เรานั้นเป็นถุงใต้ตาที่บวมนั้นสามารถที่จะบอกเราได้เหมือนกัน  เพราะว่าถ้าร่างกายของเรานั้นเกิดการขาดน้ำนั้นสามารถที่จะเป็นอาการที่เป็นถุงใต้ตาได้เหมือนกัน ดังนั้นเราก็ควรที่จะเกิดอาการถุงใต้ตาที่บวมขึ้นได้เหมือกัน  

วิธีในการที่เรานั้นจะรักษาในการที่เรานั้นจะรักษานั้นสามารถที่จะทำได้หลายอย่างโดยที่เราสามารถที่จะไปหาหมอเพื่อที่จะได้ปรึกษานั่นเองว่าเรานั้นควรที่จะทำการรักษาอย่างไหนนั่นเอง  

 

สนับสนุนโดย  ซื้อหวยฮานอยวันนี้

ในปัจจุบันนั้นบางคนนั้นได้มีการที่ทำงานหนักอยู่มากในปัจจุบัน ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการที่ทำงานหนักมากๆนั้น จะการที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเรานั้นเป็นอย่างมาก ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการทำงานหนักนั้นจะมีสาเหตุนั้นก็คือ เนื่องจากการที่เรานั้นไม่สามารถทำงานได้ทัน หรือในการที่เรานั้นอยากที่จะมีการทำงานหนักเพื่อที่จะได้มีการประสบความสำเร็จในสิ่งต่างๆ

ตามที่เรานั้นได้มีการคาดหวังเอาไว้ ซึ่งในการที่เรานั้นทำการหนักมากขึ้นเรื่อยๆของเรานั้น จะสามารถทำให้ร่างกายของเรานั้นเกิดปัญหาอย่างมากต่อสุขภาพของเรา ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการทำงานหนักนั้นจะมีการส่งผลต่อสุขภาพของเราดังนี้

1. ประสิทธิภาพของเรานั้นมีการลดลง ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการทำงานหนักอยู่เรื่อยๆ นั้นจะมีการที่เรานั้นได้มีประสิทธิภาพของเรานั้นลดลงเป็นอย่างมาก ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีประสิทธิภาพของเราที่มีการลดลงนั้น ได้มีการที่เกิดจากการที่เรานั้น ไม่ได้มีการพักผ่อนที่เพียงพอ และได้มีการอดนอน ซึ่งในการที่เรานั้นไม่มีการอดนอน หรือไม่มีการพักผ่อนไม่เพียงพอนั้น จะส่งผลให้การที่เรานั้นทำงานได้มีประสิทธิภาพที่ลดลงจากเดิมนั้นเอง
2. การที่เรานั้นเกิดการอ่อนเพลียในแต่ล่ะวัน ซึ่งในการที่เรานั้นทำการอดนอน หรือในการที่เรานั้นทำการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายของเรานั้นเกิดการอ่อนเพลีย และไม่สามารถที่จะทำการโฟกัสกับงานที่เรานั้นทำได้ และนอกจากนี้ยังเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เรานั้น มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดลงอีกด้วย
3. ทำให้เกิดสภาวะเศร้าขึ้นได้ ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการทำงานอย่างหนักจะทำให้เรานั้นได้มีการเกิดสภาวะเศร้าขึ้นได้ และนอกจากนี้ยังสามารถที่จะทำการเกิดผลต่อสุขภาพจิตของเราได้อีกด้วย ซึ่งจะทำให้เรานั้นเกิดการหดหู่
4. หัวใจของเรานั้นได้เกิดการทำงานหนัก ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการทำงานเป็นอย่างหนักมากๆนั้น จะส่งผลให้เรานั้นได้มีการเคลียดมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้ร่างกายของเรานั้นจะมีการหลั่งสาร ฮอร์โมนคอติซอล ออกมา และสารชนิดนี้นั้นจะมีการส่งผลต่อหัวใจ และสามารถที่จะทำให้เกิดการเป็นโรคหลอดเลือดในสมองของเราได้ และนอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดการเป็นโรคเบาหวาน หรือโรคมะเณ้งได้อีกด้วย

 

สนับสนุนโดย  ซื้อหวยฮานอยวันนี้

สิ่งในบทบาทที่สำคัญในการวิจัยว่าวิตามินดีมันไม่ได้ช่วยแค่การบำรุงผิวแต่อย่างเดียวเขายังสามารถช่วยได้หลายระบบมากไม่ว่าจะเป็นระบบภูมิต้านทานช่วยในการต่อสู้กับเชื้อดรคแบคทีเรียไวรัสการควบคุมในระดับน้ำตาลในเลือดและยังช่วยบำรุงระบบทางเดินอาหารระบบหลอดเลือดระบบเส้นเลือด

นอกจากนี้ยังได้มีการวิจัยเลยว่าวิตามินดีนั้นเกี่ยวพันแล้วก็มีส่วนช่วยกับการรักษาโรคมะเร็งสำไส้ใหญ่มะเร็งเต่านมมะเร็งต่อมลูกหมากหรือลดอัตราการเป็นลดอัตราความเสี่ยงของมะเร็งต่างๆได้วิตามินดีช่วยให้สมองหลั่งสารซิโรโทนินหรือว่าเป็นฮอรโมนแห่งความสุขนี่แหละช่วยลดความเครียด

เนื่องจากนี้เรื่องของผิวพรรณเรามาคุยกันหน่อยวันนี้หัวข้อเราผิวพรรณใช้ไหมววิตามินดีมีส่วนช่วยในการแบ่งเซลล์หรือว่าเซลล์ Cell Proliferationชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวDelay Skin Agingรอยย่นมาช้ารอยเหี่ยวมาช้าหน้าชุ่มชื้นหน้าตึงบำรุงผิวพรรณให้สดชื้นอ่อนเยาว์ปกป้องงคุ้มคลองเซลล์ผิวหนังจากศัตรู

ซึ่งถ้าหากว่ามีอาการอักเสบวิตามินดีก็ช่วยได้ดีเลยทีเดียววิตามินดีนั้นมีประโยชน์อันต่อไปคือเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายโดยเฉพาะในกีฬาที่ต้องใช้ความอึดความอดทนเช่นวิ่งมาราธอนปั่นจักยานไตรกีฬาแบบนี้วิวตามินดีก็เลยมีส่วนในการเพิ่มEnduranceหรือว่าความอึดของร่างกายมีการวิจัยไวในJonmal of Druga in Dematologyในปี2009

ดังนั้นในการทาครีมแคลซีไตรออลโดยแคลซีไตรออลนั้นเป็นวิตามินที่มนุษย์สร้างขึ้นครีมที่ใส่แคลซีไตรออลหรือวิตามินดีช่วยลดการอักเสบและการระคายเคืองในผู้ป่วยที่เป้ฯโรคสะเก็ดเงินหรือโรคผิวหนังนั่นเองแสดงว่าวิตามินรักษาบำรุงผิวไม่ใช่แค่เรื่องของความชุ่มชื้นยังรักษาเรื่องการอักเสบเป็นแผลหรือว่าแผลสิวได้ด้วย

นอกจากนี้ยังได้มีการวิจัยอีกจากมหาวิทยาลัยออริกอนLinus Pauling lnstituteวิจัยไว้ว่ามนุษย์ควรที่จะได้รับวิตามินดีประมาณ600IUต่อวัน หรือจะเรียกว่าlntemational Unitเวลาเราไปดูวิตามินดีเวลาเราจะไปซื้อเราอ่านข้างๆวันหนึ่งเราจะต้องการประมาณ600-1,000IUต่อวันก็น่าจะโอเคยกเว้นในสองคนก็คือกลุ่มคนท้องต้องการวิตามินดีมากกว่าปกติและในกลุ่มที่สองคือกลุ่มผู้สูงอายุที่อายุเกิน70ปี

ซึ่งเราจะมาดุว่าLinus Pauling lnstituteเขาบอกว่าเฉลี่ยประมาณนี้สมาคมอื่นก็บอกว่าวิตามินดีประมาณนั้นถ้ามาถามเราวิตามินดีฟังธงให้หน่อยรับประทานโดสเท่าไหร่ดีก็เหมือนเดินแหละเราจะต้องรู้ก่อนว่าในเลือดของเรามีระดับวิตามินดีเยอะพอหรือยังถ้าเราตรวจเอดของเราแล้ววิตามินดีเราเกินแสดงว่าทุกวันที่เรากินอยุ่นี้พอเพียงอยู่แล้วเราก็ไม่ต้องไปหาเสริมให้เสียเงินเปล่าๆ

 

สนับสนุนโดย  ซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดี

โรคมะเร็งเป็น โรคที่เกิดจากการที่เซลล์ของร่างกายของเรานั้นเกิดการผิดปกติซึ่งจะมีผลก็คือเกิดจากก้อนเนื้อของเรานั้นเกิดขึ้น และทำการเคลือนที่ไปยังส่วนต่างๆในร่างกายของเราและทำการหรือทำการกระจายไปในร่างกายของเรา ซึ่งโรคมะเร็งนั้นจะมีหลายชนิด และเกิดในที่ที่ต่างกัน และในโรคมะเร็งนั้นเป็นสิ่งที่ป้องกันได้และสามารถที่จะรักษาได้ได้ยังหายขาดอีกด้วย ซึ่งในการที่เรานั้นจะสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้อย่างไร

ซึ่งมะเร็งนั้นจะเกิดขึ้นได้จาก การที่เรานั้นมีอายุที่เพิ่มขึ้น แสงแดด รังสีที่มีในธรรมชาติ สารเคมี เหล้าหรือแอลกอฮอล์ การดำเนินชีวิตในบางอย่าง และนอกจากนี้อาจเกิดจากความผิดปกติในร่างกายได้อีกด้วย ซึ่งโอกาสที่จะเกิดมาพร้อมความผิดปกติในร่างกายแล้วทำให้เกิดมะเร็งนั้นมีอยู่น้อยมาก ซึ่งเป็นเพราะภูมิคุ้มกันที่มีการบกพร่องของร่างกาย และโรคมะเร็งนั้นจะสามารถป้องกันหรือทำการที่จะลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งต่างๆได้ดังนี้ 

1. ไม่กินอาหารที่ขึ้นรา ซึ่งรานั้นจะมีสารบางชนิดที่ทำให้เกิดมะเร็งหรือมีผลทำให้เกิดมะเร็งตับอ่อนได้
2. ไม่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารที่มีไขมันสูงนั้นจะมีผลต่อการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งไส้ใหญ่ โรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ด้วย
3. ไม่รับประทานอาหารที่มีความเค็มสูง เพราะว่าจะเป็นการเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหารโรคมะเร็งกระเพาะอาหารและโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และนอกจากนี้การที่เรานั้นทำการกินอาหารปิ้งย่างนั้นจะมีผลเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นอีกด้วย
4. ไม่กินอาหารที่ดิบๆ เพราะว่าการที่เรานั้นทำการกินอาหารที่ดิบนั้นจะทำให้เกิดพยาธิและสามารถทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดของมะเร็งท่อน้ำดีได้ด้วย ซึ่งในอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงที่กินนั่นก็คือ กุ้งแช่น้ำปลา ปลาจ่อม ยำกุ้งเต้น เป็นต้นเพราะอาหารพวกนี้นั้นจะทำให้สามารถเกิดมะเร็งได้
5. ควรป้องกันเวลาที่เรานั้นทำการตากแดดเป็นเวลานานๆ หรือทำการตากแดดที่มีความแรงสูง ซึ่งในการที่เรานั้นทำการตากแดดนี้จะเป็นการที่เรานั้นสามารถเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ด้วย

และในการที่เรานั้นจะทำการลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งได้ดังนี้

1. ทำการกินผักที่อยู่ในตระกูลกะหล่ำ ซึ่งในการที่เรานั้นทำการกินผักตระกูลกะหล่ำนั้นจะช่วยในการป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งส่วนปลาย และมะเร็งกระเพาะอาหารได้ด้วย 
2. การที่เราแนะนำการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักในร่างกายของเรา ซึ่งโรคอ้วนนั้นจะมีผลต่อกับการที่เรานั้นเสี่ยงเป็นมะเร็งได้ด้วย ดังนั้นเราควรที่จะออกกำลังกายเป็นอย่างดีและมีการกินอาหารที่มีประโยชน์สู้เพื่อที่จะสามารถทำการลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งและยังสามารถที่จะทำการป้องกันมะเร็งได้ด้วย

 

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

ซึ่งร่างกายมมนุษย์เราใช้สมองมาทั้งวันเหมือนเราออกกำลังกายมาตลอดออกกำลังการมาชั่วโมงหนึ่งพอเสร็จกระโดดลงไปอาบน้ำเลยแบบนี้ถือว่าอันตรายหัวใจจะวายได้เพราะไม่Cool Down การ Cool Down สมองหรือการให้สมองได้เปลี่ยนจากร้อนค่อยๆเย็นลงทำสิ่งที่ง่ายไปหายากคือออกกำลังก่อนเราอาจจะอกกำลังเบาๆ

เพราะการออกกำลังคือเราจะมีสมาธิกับการออกกำลังกายเราจะไม่คิดคือถ้าเมื่อไหร่อยากลืมจะจำเมื่อไหร่ไม่อยากเครียดจะเครียดการไม่เครียดคือการไปทำอย่างอื่นเสีย

เพราะฉะนั้นแล้วการถักไหมพรมการแกะสลักการเล่นดนตรีการต่อจิ๊กซอว์การทำกับข้าวการปลูกต้นไม้การทำอะไรที่ใช้ร่างกายแนะนำเขาเรียกเป็นการสงบการทำอะไรก็ตามที่ใช้สมองไม่แนะนำรวมไปถึงเรื่องของโนโมโฟเบียคือไม่มีโทรศัพท์ไม่ได้

นอกจากนี้อย่างตัวของเราเองเราจะเล่นโทนศัพท์แล้วสั่งการหรือแชตหรืออะไรก็ตามเยอะในช่วงกลางวันพอหมดหกโมงเย็นแล้วการรักษาโรคเหล่านี้ให้เริ่มก่อนแล้วแต่ใจใครแข็งกว่ากันค่อยๆฝึกไปวันนี้หลังหกโมงเย็นฉันจะไม่จับมือถือเกิน30นาทีถ้าไม่ถึง30นาทีจะไม่จับแล้วก็เพิ่มเป็น1ชั่วโมงเพิ่มเป็นสองชั่วโมงจนเพิ่มเป็นพรุ่งนี้เช้าค่อยเซ็กก็ได้นี่คือชนะแล้วและคุณจะเลือกเวลาทำอย่างอื่นเยอะ

ดังนั้นเด็กวัยรุ่นแล้วก็ผู้ปกครองทั้งหลายฝากเอาไว้ด้วยว่าต้องพยายามสนับสนุนว่าช่วงกลับมาบ้านแล้วต้องคุยกันคุยกันนให้เยอะคุยกันให้มากเล่นกีฬาทำกิจกรรมครอบครัวแม้กระทั่งในโรงพยาบาลกรุงเทพตอนนี้ก็มีการรณรงค์ว่าในกระบวนการเราดูแลผู้ป่วยอยู่นี้การที่บุคลากรหรือแพทย์ก็ตามบางครั้งเราจะเคยเห็นเพราะความเคยชินตรวจๆอยู่บางทีหยิบมาคุยหน่อยหรือบางทีเข็นคนไข้อยู่เอามาดูหน่อยเป็นความจริงที่ต้องยอมรับ

เนื่องจากนี้เราเลยมีการประชุมกันว่าสมาร์ตโพนหรือสิ่งเหล่านี้เราจะมีโซนให้ไม่ได้ห้ามใช้ตรงไหนมีป้ายโทรศัพท์คือคุณเข้าไปใช้ได้เชิญตรงไหนมีป้ายห้ามใช้คือไม่ควรใช้เช่นห้องตรวจ ห้องผ่าตัด ทางเดินในการส่งคนไข้อย่างนี้ไม่ควรเป็นแคมเปญที่เรารณรงค์สืบเนื่องไปถึงเรื่องของการติดมือถือนี่แหละ

แม้กระทั่งผู้บริหารจนถึงบุคลากรระดับไหนก็ตามนี่ติดกันหมดถ้าคนที่เป็นผุ้บริหารแล้วหรือระดับสูงๆสามารถทำได้ลูกน้องหรือบุคลากรเราจะทำตามนี่คือสิ่งสำคัญที่เมื่อไหร่ที่เราปล่อยวางจากเขาได้บ้างเราขอเสนอทฤษฎีที่ทำให้เราห่างไกลมะเร็งได้พักผ่อนชีวิตเยอะมีคุณภาพชีวิตดีคือ Siow Life คือการทำทุกอย่างให้ช้าลงช้าลงให้เหมือนขับรถ

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์

เพื่อนๆหลายๆ คนคงเคยเจอปัญหาจากการลดน้ำหนักแล้วลดเท่าไรก็ไม่ลง แถมลดมาตั้งนานแล้วแถมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย… แล้วเพื่อนๆเคยสังเกตุหรือไหมว่าทำไมบางคนเค้าลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนแป๊ปเดียวก็ลงแล้ว นั้นก็เป็นเพราะว่านอกจากลดน้ำหนักได้ถูกวิธีแล้ว เค้ามีวิธีช่วยหรือเคล็ดลับที่ช่วยทำให้เค้าผอมเร็วขึ้นนั้นเอง วันนี้เราเอาวิธีที่จะช่วยทำให้เพื่อนๆหรือคนที่ลดน้ำหนักยากๆ หรือใช้เวลาลดกว่าจะได้ที่นานเหลือเกินไป ฝากกันละ เพื่อนๆ ลองเอาไปปรับดูนะ…

ลดน้ำตาลก่อนเลย 

เพื่อนๆ คนไหนที่อยากลดน้ำหนักลงได้ไวๆ หรือเร็วๆ อย่างแรกเลยนะ เพื่อนๆต้องตัดน้ำตาลไปก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มหวานๆ อย่าง ชาเย็น กาแฟหวานมัน หรือ ชานมไข่มุก ล้วนมีน้ำตาลเยอะมากๆ รวมไปถึงของหวานด้วยนะ ลดก่อนเลย เพราะว่าน้ำตาลให้แคลอรี่สูงและสามารถสะสมเป็นไขมันได้เร็วมาก

เพิ่มการกินผักให้มากขึ้นในทุกมื้อ

ใครไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการที่เรากินผักให้มากขึ้น จะช่วยลดการกินจุกจิกหรือหิวบ่อยได้ นั้นเป็นเพราะว่าผักเองมีไฟเบอร์สูง ซึ่งมันจะทำให้เราอิ่มท้องได้นาน และที่สำคัญผักมีวิตามินและเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการ หากเพื่อนๆกินผักมากๆ ร่างกายก็จะได้รับวิตามินและเกลือแร่อย่างเพียงพอ ซึ่งมันจะลดความอยากอาหารได้เป็นอย่างดีเลย

ดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาวทุกๆเช้า

การที่เราได้ดื่มน้ำอุ้นผสมมะนาวทุกเช้า จะช่วยทำให้เพื่อนๆ ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นนะ เพราะว่าการที่เราดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาว จะช่วยไปกระตุ้นระบบขับถ่ายและจริงๆแล้วยังไปช่วยเรื่องการดีท๊อกซ์ในลำไส้ใหญ่ด้วยนะ ซึ่งการที่เพื่อนๆดื่มน้ำอุ่นผสมมะนาวอย่างต่อเนื่องจะช่วยเรื่องไปกระตุ้นระบบย่อยอาหารได้ด้วยเช่นกัน 

ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ วันละ 20 นาที

การที่เพื่อนๆอยากจะเร่งการลดน้ำหนักหรือผอมไว เพื่อนๆจำเป็นจะต้องเลือกการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนะ แล้วควรออกกำลังกายอย่างน้อย 20 นาทีด้วยนะ จะได้เผาผลาญไขมันได้ดี และทำให้เพื่อนๆผอมเร็วขึ้นได้นะ  

กินโปรตีนให้มากขึ้น

ในช่วงที่เราต้องการลดน้ำหนัก แนะนำว่าเพื่อนๆ ต้องหันมากินโปรตีนมาให้มากขึ้นนะ โดยกินโปรตีนให้ได้ ประมาณ 2 เท่าของน้ำหนักตัว เพราะมันจะช่วยทำให้เพื่อนๆ อิ่มท้องได้นานและยังช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อและเพิ่มกล้ามเนื้อให้เพื่อนเพื่อน ในช่วงที่ลดน้ำหนักได้ด้วยนะ 

 

 

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์

เพื่อนๆหรือสาวๆ เชื่อไหมว่าจริงๆ แล้วการที่เราลดน้ำหนักหรือลดไขมัน ด้วยตัวเองทำได้ไม่ยากอย่างที่คิดเลยนะ เพราะว่าการที่ลดน้ำหนักหรือลดไขมันที่ถูกต้องจะทำให้เพอื่นๆ ลดน้ำหนักหรือลดไขมันแบบไม่เสียสุขภาพด้วยนะ ดังนั้นเพื่อนๆ และสาวๆ ลองมาดูกันดีกว่าว่ามีเทคนิคอะไรบ้างที่จะช่วยทำให้เพื่อนๆและสาวๆ ผอมเร็วขึ้น

-เปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารเช้าดูสิ 

เพื่อนๆ ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกินก่อนนะ โดยเฉพาะอาหารเช้าก่อนเลยนะ เพื่อนๆ ต้องห้ามอดหรือข้ามมื้อเช้าเด็ดขาดนะ และที่สำคัญก็ควรที่จะเลือกกินอาหารเช้าที่ดีและมีประโยชน์ด้วยนะ แนะนำว่าห้ามอดหรือข้ามมื้ออาหารเช้าเด็ดขาดเลยนะ!

-มื้อกลางวันให้เน้นการกินโปรตีนให้มากขึ้นนะ

มื้อเช้าก็ห้ามข้าม มื้อกลางวันก็ต้องเลือกกินด้วยนะ เพราะว่ามื้อกลางวันจะเป็นตัวกำหยดได้เลยว่าเราจะหิวบ่อยหรือหิวถี่ระหว่างวันหรือไม่ ดังนั้นแนะนำว่าเพื่อนๆ ควรจะเลือกกินมื้อกลางวันโดยเน้นให้กินโปรตีนให้มากขึ้นนะ อย่างอกไก่ ไข่ต้ม หรือเนื้อปลา เป็นต้น

-กินของว่างที่มีประโยชน์

ระหว่างวันหาก เพื่อนๆ หิวขึ้นมาหรืออยากขนมขึ้นมาละก็ แนะนำว่าเพื่อนๆ ควรจะกินอาหารว่างที่มีประโยชน์นะ เพื่อนๆ อาจจะแบ่งเป็น 2 รอบก็ได้นะ โดยเน้นการกินของว่างที่มีประโยชน์อย่าง ผลไม้น้ำตาลต่ำ ถั่วเปลือกแข็งต่างๆ หรือ จะเป็นธัญพืชบาร์ก็ได้นะ มันจะช่วยทำให้เพื่อนๆอยู่ท้องดีละ

-กินอาหารเย็นที่มีแคลอรี่ต่ำนะ

เพื่อนๆ การกินมื้อเย็นไม่ได้แปลว่าผิดนะ เพราะจริงๆแล้วเพื่อนๆ สามารถกินอาหารเย็นได้นะ เพียงแต่เพื่อนๆ ต้องเลือกกินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ และกินในปริมาณที่เหมาะสมนะ การกินมื้อเย็นที่แคลอรี่ต่ำ จะช่วยไม่ทำให้เราหิวตอนกลางคืนด้วยนะ

-ลดการกินโซเดียมให้น้อยลง

เพื่อนๆ ที่อยากลดน้ำหนักหรือลดไขมัน แนะนำว่าเพื่อนๆ ควรจะลดการกินโซเดียมให้น้อยลงด้วยนะ เพราะว่าการที่เพื่อนๆ กินโซเดียมเยอะ นั้นจะส่งผลให้เพื่อนๆ ตัวบวมและอ้วนได้ง่ายนะ เพราะฉะนั้นนลดหารหินโซเดียมเถอะ

-ลดการกินน้ำตาล 

การที่เพื่อนๆ จะลดน้ำหนักหรือลดไขมันได้ดี ต้องลดการกินน้ำตาลด้วยนะ เพราะว่าการกินน้ำตาลจะส่งผลให้ร่างกายสะสมไขมันได้ง่าย และยังเป็นที่มาของความอ้วนและโรคอื่นๆ อีกด้วยนะ

-เพิ่มการกินผักให้มากขึ้น

เพื่อนๆที่อยากลดน้ำหนักหรือลดไขมันได้ไวๆ แนะนำว่าเพื่อนๆ ควรจะเลือกกินผักให้มากๆ นะ เพราะว่ามันจะเพิ่มไฟเบอร์ให้ร่างกายและช่วยระบบขับถ่ายด้วยนะ

 

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์

        สำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบการขับถ่ายนั้น หากต้องการรักษาระบบการขับถ่ายให้กลับมาเป็นปกติแล้วล่ะก็ ส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงผักที่และผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง  ซึ่งในครั้งนี้เราจะมาดูกันว่าผลไม้ชนิดไหนบ้างที่เมื่อเรากินเข้าไปแล้ว จะช่วยเกี่ยวกับระบบการขับถ่ายได้ดี ทำให้เราไม่มีปัญหาการถ่ายยาก 

    สำหรับผลไม้ที่คนนึกถึงมากที่สุด หากมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย เรียกได้ว่าเป็นผลไม้ที่หากินง่ายและราคาไม่แพง และคนนิยมกินกันมากนั่นก็คือ กล้วยนั่นเอง ซึ่งกล้วยที่คนกินเพื่อช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายนั้นจะเป็นกล้วยสุก หากจะให้ดีควรจะกินกล้วยสุกทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2-3 ผลก็จะสามารถลดปัญหาการเป็นโรคท้องผูกได้ และที่สำคัญคุณจะกลับมาถ่ายคล่องได้เหมือนเดิมอีกด้วย 

       ผลไม้ต่อมาที่คนนิยมกินกัน ที่ช่วยในเรื่องของลดปัญหาการท้องผูกนั่นก็คือมะละกอ  โดยมะละกอที่ว่าจะต้องเป็นมะละกอสุกเพียงเท่านั้น หากเป็นมะละกอดิบจะไม่ช่วยในเรื่องของการแก้ไขปัญหาท้องผูกได้แต่ถ้าหากเป็นมะละกอสุกแล้วก็ปัญหานี้จะหมดไปในทันทีเพราะในมะละกอสุกนั้นจะมี องค์ประกอบที่จะทำให้ระบบการย่อยของคุณและมีประสิทธิภาพและแน่นอนว่าระบบขับถ่ายของคุณจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอีกทั้งยังช่วยดูแลด้านอื่นในร่างกาย

          ทั้งเรื่องของการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและยังสามารถช่วยบำรุงระบบสมองระบบหัวใจและตับได้อีกด้วยดังนั้นมะละกอจึงเป็นที่นิยมกันมากสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องของระบบขับถ่ายอีกทั้งยังช่วยลดความหิวและยังช่วยลดความอ้วนได้ดีอีกด้วยนับได้ว่ามะละกอนั้นมีคุณประโยชน์นานัปการเลยทีเดียวเราสามารถกินมะละกอได้โดยที่ไม่ต้องควบคุมจำนวนเพราะถึงอย่างไรกินแล้วก็ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายไม่ก่อให้เกิดโทษอย่างแน่นอน

        และทีขาดไม่ได้อีกหนึ่งอย่างที่ควรมีติดบ้านนั่นก็คื สับปะรดนี่ละค่ะ ผลไม้ที่ราคาไม่แพง หากินได้ง่ายทุกฤดูกาล และที่สำคัญอร่อยมากมาก  เป็นผลไม้ของไทยที่มีประโยชน์มากอีกชนิดหนึ่ง แน่นอนว่าคุณประโยชน์นั้นมีมากมายนับไม่ถ้วนเลยทีเดียวและประโยชน์หนึ่งในนั้นก็รวมเรื่องของระบบขับถ่ายเข้าไปด้วยเช่นเดียวกัน เพราะในสัปรดจะมีสารชนิดหนึ่งที่จะเข้าไปช่วยเกี่ยวกับการย่อยสลายของโปรตีนที่อยู่ในกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักน้อยลง ดังนั้น หากใครก็ตามที่มักจะพบปัญหาเกี่ยวกับอาการท้องอึด จุกเสียด หรือแม้แต่ถ่ายไม่ค่อยออกแล้วล่ะก็ กินสับปะรดเข้าไป สบายท้องอย่างแน่นอนเลยทีเดียวค่ะ

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์