ซึ่งร่างกายมมนุษย์เราใช้สมองมาทั้งวันเหมือนเราออกกำลังกายมาตลอดออกกำลังการมาชั่วโมงหนึ่งพอเสร็จกระโดดลงไปอาบน้ำเลยแบบนี้ถือว่าอันตรายหัวใจจะวายได้เพราะไม่Cool Down การ Cool Down สมองหรือการให้สมองได้เปลี่ยนจากร้อนค่อยๆเย็นลงทำสิ่งที่ง่ายไปหายากคือออกกำลังก่อนเราอาจจะอกกำลังเบาๆ
เพราะการออกกำลังคือเราจะมีสมาธิกับการออกกำลังกายเราจะไม่คิดคือถ้าเมื่อไหร่อยากลืมจะจำเมื่อไหร่ไม่อยากเครียดจะเครียดการไม่เครียดคือการไปทำอย่างอื่นเสีย
เพราะฉะนั้นแล้วการถักไหมพรมการแกะสลักการเล่นดนตรีการต่อจิ๊กซอว์การทำกับข้าวการปลูกต้นไม้การทำอะไรที่ใช้ร่างกายแนะนำเขาเรียกเป็นการสงบการทำอะไรก็ตามที่ใช้สมองไม่แนะนำรวมไปถึงเรื่องของโนโมโฟเบียคือไม่มีโทรศัพท์ไม่ได้
นอกจากนี้อย่างตัวของเราเองเราจะเล่นโทนศัพท์แล้วสั่งการหรือแชตหรืออะไรก็ตามเยอะในช่วงกลางวันพอหมดหกโมงเย็นแล้วการรักษาโรคเหล่านี้ให้เริ่มก่อนแล้วแต่ใจใครแข็งกว่ากันค่อยๆฝึกไปวันนี้หลังหกโมงเย็นฉันจะไม่จับมือถือเกิน30นาทีถ้าไม่ถึง30นาทีจะไม่จับแล้วก็เพิ่มเป็น1ชั่วโมงเพิ่มเป็นสองชั่วโมงจนเพิ่มเป็นพรุ่งนี้เช้าค่อยเซ็กก็ได้นี่คือชนะแล้วและคุณจะเลือกเวลาทำอย่างอื่นเยอะ
ดังนั้นเด็กวัยรุ่นแล้วก็ผู้ปกครองทั้งหลายฝากเอาไว้ด้วยว่าต้องพยายามสนับสนุนว่าช่วงกลับมาบ้านแล้วต้องคุยกันคุยกันนให้เยอะคุยกันให้มากเล่นกีฬาทำกิจกรรมครอบครัวแม้กระทั่งในโรงพยาบาลกรุงเทพตอนนี้ก็มีการรณรงค์ว่าในกระบวนการเราดูแลผู้ป่วยอยู่นี้การที่บุคลากรหรือแพทย์ก็ตามบางครั้งเราจะเคยเห็นเพราะความเคยชินตรวจๆอยู่บางทีหยิบมาคุยหน่อยหรือบางทีเข็นคนไข้อยู่เอามาดูหน่อยเป็นความจริงที่ต้องยอมรับ
เนื่องจากนี้เราเลยมีการประชุมกันว่าสมาร์ตโพนหรือสิ่งเหล่านี้เราจะมีโซนให้ไม่ได้ห้ามใช้ตรงไหนมีป้ายโทรศัพท์คือคุณเข้าไปใช้ได้เชิญตรงไหนมีป้ายห้ามใช้คือไม่ควรใช้เช่นห้องตรวจ ห้องผ่าตัด ทางเดินในการส่งคนไข้อย่างนี้ไม่ควรเป็นแคมเปญที่เรารณรงค์สืบเนื่องไปถึงเรื่องของการติดมือถือนี่แหละ
แม้กระทั่งผู้บริหารจนถึงบุคลากรระดับไหนก็ตามนี่ติดกันหมดถ้าคนที่เป็นผุ้บริหารแล้วหรือระดับสูงๆสามารถทำได้ลูกน้องหรือบุคลากรเราจะทำตามนี่คือสิ่งสำคัญที่เมื่อไหร่ที่เราปล่อยวางจากเขาได้บ้างเราขอเสนอทฤษฎีที่ทำให้เราห่างไกลมะเร็งได้พักผ่อนชีวิตเยอะมีคุณภาพชีวิตดีคือ Siow Life คือการทำทุกอย่างให้ช้าลงช้าลงให้เหมือนขับรถ
สนับสนุนโดย หวยออนไลน์